เรียนรู้ วิธีเล่น โป๊กเกอร์ ออนไลน์ เล่นอย่างไรให้ชนะ มีกฏการเล่นอย่างไรบ้าง

ในการจะเล่นโป๊กเกอร์นั้น เราต้องรู้จัก 3 องค์ประกอบนี้ก่อนตามลำดับ นั้นก็คือ

• ความใหญ่ ของไพ่
• Blind
• ขั้นตอนการเล่น ลำดับ

ลำดับ ความใหญ่ ของไพ่  ไพ่โปกเกอร์ ออนไลน์

ไพ่โปกเกอร์ ออนไลน์

ในเกมไพ่โปกเกอร์ ออนไลน์ นั้น ไพ่ที่เราได้รับแจก, ตาที่เราเล่น หรือระดับความแข็งแกร่งของไพ่ที่เรามีอยู่ เรามักจะเรียกรวมๆกันว่า “Hand” (แฮนด์) (เช่น hand นี้เรามีไพ่ xx, เรามี hand ระดับ xx, หรือ เมื่อ hand ที่แล้วเราเล่นอย่างไร เป็นต้น)

สำหรับโป๊กเกอร์แล้ว ความใหญ่ของไพ่ จะเรียงจาก 2 ไป A ได้แก่ 2 3 4 5 6 7 8 9 T Ten จะใช้ตัวย่อ T แทน 10 เพราะต้องใช้ตัวอักษรแค่ตัวเดียว J Q K A  โดย A เดี่ยวๆจะใหญ่ที่สุด แต่ถ้าต้องเรียง สามารถเรียงจากต่ำสุดเป็นตัวแรก คือ A 2 3 4 5 ได้เช่นกัน 

โดยที่แต่ละดอกคือ

• ดอกจิก 
•  ข้าวหลามตัด 
• โพธิ์แดง 
•  โพธิ์ดำ 

มีค่าเทียบเท่ากัน ไม่มีดอกไหนใหญ่กว่ากัน และอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้แล้วว่า จุดประสงค์ของเกมอย่างหนึ่งคือ เราต้องพยายามมีไพ่ 5 ใบที่แข็งแกร่งที่สุด หรือมี hand ที่ใหญ่ที่สุด  ซึ่งลำดับของความใหญ่ของ ไพ่โปกเกอร์ ออนไลน์  hand สามารถเรียงตามลำดับได้ ดังนี้ :

1. High End / High Card คือ ผสมแล้วไม่มีไพ่ใดๆที่เหมือนกัน / ดอกเดียวกันหมด หรือเลขเรียงกันเลย ความใหญ่จะเลือกจากไพ่ที่ใหญ่ที่สุด เช่น เราถือ K8 รวมกับไพ่กองกลาง 4 6 3 เรามี High Card โดยที่ไพ่ใหญ่สุดคือ K รวมเป็น K 8 6 4 3
2. One Pair  คือ ผสมแล้วมีไพ่ที่เหมือนกัน 2 ใบ เช่น เราถือ 96 รวมกับไพ่กองกลาง T 6 2 แบบนี้รวมกันคือเรามี 1 คู่ คือคู่ 66 และอีก 3 ใบคือ 10 9 2 รวมเป็น 6 6 10 9 2 
3. Two Pair  คือ ผสมแล้วมีไพ่ที่เหมือนกัน 2 ใบ 2 คู่ เช่น เราถือ 95 รวมกับไพ่กองกลาง 9 5 3 แบบนี้รวมกันคือเรามี 2 คู่ คือ 99 55 และอีกใบคือ 3 รวมเป็น 9 9 5 5 3
4. Three Of A Kind / Trips / Set  คือ ผสมแล้วมีไพ่ที่เหมือนกัน 3 ใบ เช่น เราถือ KK รวมกับไพ่กองกลาง K 5 8 แบบนี้รวมกันคือเรามี Set คือ KKK และอีก 2 ใบคือ 5 8 รวมเป็น K K K 8 5
5. Straight  คือ ผสมแล้วมีไพ่เรียงติดกัน 5 ใบ เช่น เราถือ 67 รวมกับไพ่กองกลาง 3 4 5 แบบนี้รวมกันคือเรามี straight คือเรียงกันได้ 3 4 5 6 7 เลย (A สามารถเรียงได้ทั้ง straight ที่เล็กที่สุดคือ A 2 3 4 5 และใหญ่ที่สุดคือ 10 J Q K A
6. Flush  คือ ผสมแล้วมีไพ่ที่ดอกเหมือนกันทั้ง 5 ใบ เช่น เราถือ 8♦7♦ รวมไพ่กองกลาง 6♦ 4♦ 2♦ แบบนี้รวมกันคือเรามี flush คือ 8♦7♦6♦4♦2♦
7. Full House คือ ผสมแล้วมีไพ่ตอง + 1 คู่ เช่น เราถือ Q6 รวมกับไพ่กองกลาง Q Q 6 แบบนี้รวมกันคือเรามี full house คือ Q Q Q 6 6
8. Four Of A Kind / Quads 4 ใบ คือ ผสมแล้วมีไพ่เหมือนกัน 4 ใบ เช่น เราถือ AA รวมกับไพ่กองกลาง A A 8 แบบนี้รวมกันคือเรามี Quads คือ A A A A 8 
9. Straight Flush เรียง+ดอก คือ ผสมแล้วมีไพ่เรียงกันและดอกเหมือนกันทั้ง 5 ใบด้วย เช่น เราถือ 8♣7♣ รวมกับไพ่กองกลาง 4♣5♣6♣ แบบนี้รวมกันคือเรามี straight flush คือ 4♣5♣6♣7♣ 8♣
10. Royal Flush เรียงสูงสุด+ดอก คือ ผสมแล้วเรามี straight flush ที่ใหญ่ที่สุดคือ 10 J Q K A ที่ดอกเดียวกันหมดนั่นเอง

ขั้นตอนการเล่น ไพ่โปกเกอร์ ออนไลน์

การเล่นไพ่โปกเกอร์ ออนไลน์ นั้น ให้ลองนึกภาพตามว่า จะเป็นการเล่นบน “โต๊ะกลม” โดยมีผู้เล่นนั่งอยู่รอบๆโต๊ะ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมักจะกำหนดให้มีผู้เล่นได้สูงสุด 6-9 คนต่อโต๊ะ และจะแจกไพ่แบบคว่ำให้ทุกคนบนโต๊ะ 

บนโต๊ะ โป๊กเกอร์ นั้น จะมีการกำหนดตำแหน่งที่สำคัญอยู่ 3 ตำแหน่งให้กับผู้เล่นที่นั่งอยู่ ตำแหน่งแรกที่ถูกกำหนดคือตำแหน่ง Dealer ซึ่งถือเป็นตำแหน่งศูนย์กลางในการเล่น เพราะไพ่จะถูกแจกให้คนที่อยู่ถัดจากตำแหน่งนี้ “ซ้ายมือ” เป็นคนแรก และมาจบที่ BTN นี้เป็นคนสุดท้าย และเวลาจะเล่นแต่ละรอบ คนที่อยู่ถัดจาก BTN ไปซ้ายมือก็จะต้องตัดสินใจก่อนเสมอ และ BTN จะเป็นคนสุดท้ายที่ได้ตัดสินใจเสมอ ซึ่งแหน่งที่อยู่ถัดจาก BTN ไปซ้ายมือคนแรก คือตำแหน่งของ Small Blind  ที่ก่อนเริ่มเล่น จะต้องถูกบังคับให้ลงเงินเท่ากับ sb ก่อนเสมอ  

• Bet คือ การลงเงินเดิมพันเป็นคนแรกของแต่ละรอบ อย่างน้อยที่สุดเท่ากับ 1 bb
• Call คือ การจ่ายเงินเดิมพันให้เท่ากับ Bet เพื่อขอดูไพ่ที่จะเปิดในรอบถัดไป หรือขอเปิดไพ่เพื่อวัด hand กับคู่แข่งเมื่อจบรอบสุดท้าย
• Fold คือ การขอยอมแพ้ โดยหมอบไพ่ของตัวเองทิ้งไป แล้วไม่ต้องจ่ายเงินเดิมพัน
• Raise คือ การเพิ่มเงินเดิมพันให้สูงกว่า Bet อย่างน้อย 2 เท่าของจำนวนที่ Bet มา
• Check คือ การขอผ่านโดยไม่ต้องลงเงินเดิมพัน ทำได้เฉพาะยังไม่มีใคร Bet หรือวางเงินเดิมพันมาก่อนในแต่ละรอบเท่านั้น